ไอเป็นประจำไม่หายสักที ไอกระทั่งลูกกระเดือกเจ็บไปหมดแล้ววว เป็น หนึ่งในอาการที่มักมาคู่กันเมื่อพวกเรามีลักษณะอาการ เป็นหวัด ไม่สบาย น้ำมูกไหล ซึ่งอาการ น้ำมูกไหลลงคอ นี่เอง ที่ทำให้พวกเราไอเพราะว่า ร่างกายจะพยายามทำให้ปอด และก็ทางเท้าหายใจโล่งเตียนขึ้น เพื่อกำจัดสิ่งปลอมปน ที่เข้าไปในทางเดินหายใจ

วันนี้เรามาดูของกินบางสิ่งบางอย่าง ก็มีส่วนช่วยทำให้พวกเราไอหนักกว่าเดิมได้ แล้วมีอะไรบ้างนะ ที่เป็น ของกินแสลงสำหรับคนไอ ? มาดูกันเลย

ของกินที่มีรสหวานจัด

ตัวอย่างเช่น ของหวาน อาหารหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้สำเร็จรูป รวมทั้งน้ำหวานทุกประเภท เนื่องจากว่าน้ำตาลในของกิน ทำให้เพิ่มการเสี่ยงต่อการเกิดอาการอักเสบ และก็การได้รับเชื้อภายในร่างกาย ทำให้ผู้ที่มีอาการป่วยเป็นหวัด อาการไม่ดีขึ้น หรืออาจมีอาการหนักกว่าเดิมก็ได้ ช่วงที่ไอมาก จะต้องหลีกเลี่ยงของกินที่มีรสหวานๆเป็นการชั่วคราว

เครื่องดื่มเย็นๆ

ความเย็น เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอาการไอ ตอนที่พวกเราเป็นหวัด แล้วก็มีลักษณะอาการไอ จะต้องหลีกเลี่ยงอาหาร และก็เครื่องดื่มต่างๆที่มีความเย็น อาทิเช่น น้ำเย็น น้ำแข็ง ไอติม ฯลฯ

ของกินรสจัด หรือของกินมันๆ

ของกินรสจัด แล้วก็ของกินที่มีไขมันสูง เป็นของกินที่ก่อให้การระคายเคืองข้างในลำคอ รวมทั้งทำให้มีการเกิดอาการไอมากขึ้นเรื่อยๆ

ผลไม้ฤทธิ์เย็น

ถึงแม้ว่าผลไม้จะอุดมไปด้วยวิตามิน แล้วก็แร่ธาตุที่ดีต่อสภาพร่างกาย แต่ว่าก็ใช่ว่า พวกเราจะรับประทานผลไม้ทุกๆอย่างได้ตลอดระยะเวลา ตัวอย่างเช่น ผลไม้ฤทธิ์เย็นอย่าง แตงโม แคนตาลูป หรือแตงไทย เนื่องจากว่าผลไม้จำพวกนี้ ส่วนมากจะเป็นผลไม้ที่มีน้ำมาก ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองข้างในลำคอ แถมความเย็นในผลไม้ ยังไปทำให้มีการเกิดอาการไอมากขึ้นเรื่อยๆ และก็ทำให้หายใจติดขัดด้วย

ผลไม้ที่แข็ง ย่อยยาก รวมทั้งมีแป้งมาก

นอกจากผลไม้ฤทธิ์เย็นแล้ว ผลไม้ที่อุดมไปด้วยแป้ง มีลักษณะแข็ง ยกตัวอย่างเช่น มะม่วงดิบ มะละกอ หรือกล้วย ก็สามารถกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอาการไอได้ด้วยเหมือนกัน เนื่องจากว่าเมื่อเป็น ไข้หวัด ร่างกายจะมีอุณหภูมิที่สูงมากอยู่แล้ว การกินผลไม้ดังกล่าวข้างต้น จะทำให้ร่างกายจะต้องเผาผลาญพลังงานมาก ก่อให้เกิดความร้อนภายในร่างกาย และก็ร่างกายก็จะมีอุณหภูมิสูงมากขึ้น จนกระทั่งอาจส่งผลให้ชักได้

นม และผลิตภัณฑ์จากนม

ถึงแม้ว่านมจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย แต่ว่าสำหรับคนที่แพ้โปรตีนจากนมแล้ว การหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากนมทุกประเภท เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องจากสินค้าจากนม มีส่วนทำให้น้ำมูกข้น และก็เหนียวขึ้น จนกระทั่งบางทีอาจขัดขวางทางเดินหายใจ จนกระทั่งทำให้หายใจไม่สะดวกขึ้นกว่าเดิมได้

สนับสนุนโดย  entaplay

       อาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละมื้อไม่ใช่ว่าจะมีแต่ประโยชน์ได้อย่างเดียว อาหารแต่ละชนิดที่เรากินเข้าไปนั้นก็มีทั้งประโยชน์และโทษได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกกินอาหารแบบไหน วันนี้เราจะมาแนะนำอาหารที่หลายคนบอกว่าอร่อย แต่ที่จริงแล้วเราไม่ควรจะกินเป็นอย่างมาก

เพราะอาหารเหล่านี้คือแหล่งเพาะพันธ์ของพยาธิชั้นดีนั่นเอง เรามาดูกันว่ามีอาหารอะไรบ้างที่ควรงดกินได้ยิ่งดี

• ยำกุ้งฝอย สำหรับเมนูยำกุ้งฝอยนี้ เป็นอาหารที่หลายหลายคนชื่นชอบอย่างมาก โดยเฉพาะชาวบ้านจะเน้นทำมากินคู่กับเหล้า ทำมาเป็นกับแกล้ม วิธีทำแสนง่ายเพียงแค่ใส่เครื่องปรุงในการยำพร้อมกับกุ้งฝอยตัวเป็นเป็น ก็นำมากินได้แล้วโดยชาวบ้านเชื่อว่าการที่เราบีบน้ำมันนาวลงไปมันคือการฆ่าเชื้อโรคได้แล้วซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะกุ้งฝอยสดสดนี่ละที่มีพยาธิอยู่ในท้องเยอะมากมาก หากกินเข้าไปเยอะเยอะระวังต้องไปให้หมอช่วยเอาออกนะจ๊ะ
• การทานปลาดิบ  หลายคนมักจะเลียนแบบอาหารญี่ปุ่นที่ว่าเขากินปลาแซลมอนดิบดิบ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู๊ดแล้วอร่อย ไม่เห็นจะเป็นอันตรายอะไร ดังนั้นบ้านเราเลยเอามั่งด้วยการนำปลาน้ำจืดที่จับได้ตามแม่น้ำ ตามลำคลอง มาแร่เนื้อเอาหนังออกให้เหมือนกับปลาแซลมอนแล้ว นำมาจิ้มน้ำจิ้มซีฟู๊ดเพื่อหวังให้เป็นอาหารญี่ปุ่นตามแบบไทยแท้ แต่หารู้ไม่ว่าการกินปลาดิบ ไม่ว่าจะเป็นปลาไทยหรือปลาญี่ปุ่นก็อันตรายเหมือนกัน ดังนั้นควรงดกินของดิบหันมาปรุงสุกแทนนะจ๊ะ
• ตั๊กแตนทอด  ถือว่าเป็นอาหารขึ้นชื่อที่คนนิยมกินมากที่สุดเลยทีเดียว ขนาดชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยยังต้องขอลองกิน ที่สำคัญมันอร่อยซะด้วยซิ  ไม่ว่าคนสวยไม่สวย หรือคนหล่อไม่หล่อก็พากันกิน ขนาดดารา ไอโซหลายคนยังเคยลองกินมาแล้ว เพราะว่าอาหารจานนี้อร่อยมากจริงจริง แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ในอาหารรถด่วนแบบนี้ก็มีพวกพยาธิแฝงตัวอยู่ด้วยเหมือนกัน

อย่าคิดว่ามันถูกทำมาทอดจนกรอบแล้วจะไม่มีอันตราย เพราะถึงแม้ว่าจะถูกนำมาปรุงผ่านความร้อนแล้ว แต่เวลาทีขายสถานที่ทำและขายอาจจะไม่สะอาดก็จะส่งผลให้มีพยาธิติดตามมาได้เช่นเดียวกัน เพราะส่วนใหญ่เรามักจะเห็นตั๊กแตนทอดมีขายตามรถเข็นทั่วไป ทั้งฝุ่น ทั้งควัน ก็สามารถเป็นการสะสมเชื้อโรคให้กับเราได้ และหากเจ้าของร้านทำไม่สะอาด ท่านอาจจะได้ของแถมเป็นพยาธิเข้าไปในท้องเพิ่มได้นะจ๊ะ

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุน  BK8

น้ำตาล สามารถเป็นต้นเหตุของอาการฟันผุได้ แต่ว่าสามารถลดการเสี่ยงได้ด้วยการบริโภคผัก แล้วก็ผักผลไม้ที่มีกากใยอาหารเป็นองค์ประกอบ

น้ำตาล ทำลายสุขภาพ ถ้าหากบริโภคอย่างไม่ระมัดระวัง

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย พูดว่า การบริโภคน้ำตาลที่เป็นองค์ประกอบของอาหารรวมทั้งเครื่องดื่มที่มากเกินความจำเป็นจะทำให้เป็นผลเสียต่อร่างกายตามมา ดังเช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน หัวใจรวมทั้งเส้นเลือด แล้วก็ฟันผุ ฯลฯ

ชาวไทย ติดหวาน

จำนวนน้ำตาลที่ชาวไทยได้รับจำนวนมากมาจากของหวาน และก็เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล จากการเรียนผลการดำเนินมาตรการภาษีเครื่องดื่มรสหวานต่อพฤติกรรมด้านการบริโภคของประชาชนโดย สถาบันวิจัยประชากรแล้วก็สังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ปี 2562 พบว่า โดยเฉลี่ยในทุกๆวันคนประเทศไทยดื่มเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาลเฉลี่ยกว่า 3 แก้ว (519.3 มิลลิลิตร)

โดยเพศชายดื่มมากกว่าเพศหญิง รวมทั้งพบว่าในกลุ่มเด็กอายุ 6-14 ปีเป็นกลุ่มที่ดื่มเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาลเฉลี่ยต่อสัปดาห์มากที่สุดเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาลที่วางขายในประเทศไทยเจอมีจำนวนน้ำตาลสูงมากมาย เฉลี่ย 9-19 กรัม/100 มิลลิลิตรในขณะที่ปริมาณที่สมควรคือไม่ควรมีน้ำตาลมากยิ่งกว่า 6 กรัม/100 มิลลิลิตร เนื่องจากจะเพิ่มช่องทางเสี่ยงต่อโรคอ้วนแล้วก็โรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ในระยะยาว

ผักผลไม้ก็ช่วยลดเสี่ยงฟันผุได้

ทันตแพทย์หญิงปิยะดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยการสำนักสาธารณสุขเกี่ยวกับฟัน พูดว่า น้ำตาลเป็นแหล่งของกินชั้นดีของแบคทีเรียสำหรับการผลิตกรดทำลายผิวฟัน จนถึงแพร่กระจายไปเรื่อยหากว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมโดยควรจะเน้นย้ำบริโภคผักหรือผลไม้ที่มีเส้นใยเซลลูโลส ด้วยเหตุว่ามีสาระต่อร่างกาย

ซึ่งการบดเส้นใยจะช่วยกระตุ้นให้มีน้ำลายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สามารถเจือจางภาวะความเป็นกรดได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงของกินกลุ่มโปรตีน ตัวอย่างเช่น ถั่วต่างๆนมที่มีแคลเซียมรวมทั้งฟอสเฟตสูง ถ้าเกิดอยากดื่มเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาล แนะนำให้สั่งสูตรหวานน้อย เพื่อลดจำนวนน้ำตาลส่วนเกิน

ดังนี้ เครื่องดื่มที่เหมาะสมที่สุดสำหรับร่างกาย เป็น น้ำเปล่า โดยควรจะดื่มอย่างต่ำ 6-8 แก้วต่อวัน เนื่องจากจะช่วยชำระล้างเศษอาหารที่หลงเหลือในช่องปาก ทำให้ปากไม่แห้ง ลดปัญหากลิ่นปากส่งผลดีต่อร่างกายฟันไม่ส่งผลให้เกิดฟันผุ

อย่างไรก็ตามหากท่านสนใจเกี่ยวกับการดูแลฟันหรือช่องปากของเท่านเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะทานอาหารที่เป็นการเสี่ยงมากแค่ไหน ก็จะส่งผลให้ช่องปากของคุณดีอย่างเดิม แต่เมื่อใดที่คุณไม่ดูแลช่องปากอย่างนี้ คุณก้คงอยู่ในสภาวะที่เสี่ยงต่อฟังผุอย่างแน่นอน ดังนั้นการกินจึงสำคัญ

ขอบคุณ 9luck  ที่ให้การสนับสนุน

 กล้วยน้ำว้า เป็นผลไม้พื้นบ้านของไทยที่นิยมกินกันมาตั้งแต่โบราณ จะปลูกไว้กินเองขั้นตอนการปลูกก็แสนง่าย หรือจะซื้อหาจากตามท้องตลาดมากินราคาก็แสนจะถูก นอกเหนือจากรสชาติที่หวานอร่อยแล้ว กล้วยน้ำว้ายังมีประโยชน์และมีสรรพคุณทางยาสามารถรักษาโรคได้หลายโรค

ซึ่งไม่ว่าจะกินตอนไหน จะสุกหรือดิบก็ล้วนแต่มีประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น

กล้วยดิบ  

มีสรรพคุณทางยาสามารถรักษาโรคกระเพาะและช่วยแก้ท้องเสียได้ สารที่ทำให้เกิดรสฝาด ในกล้วยเป็นตัวช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และช่วยป้องกันผนังกระเพาะไม่ให้อาหารที่มีรสเผ็ดเข้าไปทำให้ผนังกระเพาะลำไส้เกิดการระคายเคือง  

การทำให้นำกล้วยดิบมาฝาน เป็นชิ้นบางๆจากนั้นเข้าอบที่อุณหภูมิ 50 องศา เมื่อแห้งดีแล้วนำมาบดเป็นผง จะผสมน้ำผึ้งหรือกินเปล่าๆก็ได้ โดยกินก่อนอาหารวันละ3 มื้อๆละ 1 ช้อนชา

กล้วยห่าม  

มีสรรพคุณทางยาช่วยรักษาอาการท้องเสียและช่วยเพิ่มกากใยเวลาขับถ่าย  ในกล้วยห่ามมีธาตุโพแทสเซียมสูง สำหรับคนไข้ที่มีอาการท้องร่วงการกินกล้วยห่ามสามารถชดเชยธาตุโพแทสเซียมที่สูญเสียไปได้ และที่สำคัญเวลากล้วยเริ่มจะสุกนั้นพบว่ามีสารเซโรโทนินอยู่มาก เมื่อกินเข้าไปจะไปกระตุ้นให้ผนังกระเพาะอาหารสร้างเยื่อเมือก ที่ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหารนั่นเอง

กล้วยสุก

มีสอบว่าหนทางยาใช้เป็นยาระบายแก้ท้องผูก เพราะในกล้วยสุกมีสารเพคตินอยู่มาก เมื่อกินเข้าไปจึงไปช่วยเพิ่มกากใยในลำไส้  แต่ก็ควรระวังเพราะถ้ากินกล้วยสุกที่งอมมากๆ ก็อาจทำให้ระบายท้องออกมากเกิน นั่นเป็นเพราะมีสารเพคตินในปริมาณมากนั่นเอง เนื่องจากกล้วยเป็นผลไม้ที่มีแป้งอยู่ 20-25% ในการกินกล้วยสุกเราจะต้องเคี้ยวให้ละเอียด กระเพาะคนเรามีเอนไซม์ที่ย่อยแป้งได้น้อย การเคี้ยวกล้วยสุกไม่ละเอียดก่อนกลืนลงไปที่กระเพาะจะทำให้เกิดอาการท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ  

กล้วยสุกงอม

มีงานวิจัยโดยศาสตราจารย์ญี่ปุ่นมหาลัยโตเกียว พบว่าในกล้วยสุกงอมที่เกิดจุดสีดำที่เปลือก ยิ่งจุดสีดำมากเท่าไร มันก็จะสามารถให้สาร TNF ไปต่อสู้กับเซลล์ที่ผิดปกติได้มาก  ซึ่งได้ทดลองกับสัตว์ และใช้ผลไม้อื่นๆร่วมเอาเข้ามาทดลอง ผลปรากฏว่ากล้วยสามารถช่วยทำให้เมล็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น และสร้างสารต้านมะเร็ง TNF ได้ด้วย

เมนูกล้วยที่เราเอามาดัดแปลงเป็นขนมต่างๆเพื่อรับประทานกัน ได้แก่ กล้วยบวชชี กล้วยตาก กล้วยฉาบ  กล้วยทอด หรือแม้แต่ขนมกล้วยนึ่ง ทุกอย่างที่กล่าวมาล้วนมีรสชาติที่อร่อย แต่ก็มีข้อควรระวังในการรับประทานจากขนมหวานที่ว่านี้ คุณรับประทานแต่น้อยและให้ระวังเรื่องน้ำตาลกับไขมันที่แอบแฝงมากับขนมด้วย

 หลายคนกินโยเกิร์ตเพราะต้องการลดน้ำหนักจึงมักหาสูตรเด็ดเคล็ดลับเป็นของตัวเองเพราะต้องการกินเพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงและผอมลงจึงอาจมีการคิดคนสูตรเด็ดเคล็ดลับของตัวเองในแบบวิธีต่างๆไม่ว่าจะเป็นการผสมนุ่นใส่นี่ลงไปแต่หลายคนก็พบปัญหาว่ายิ่งกินโยเกิร์ตก็ไม่เห็นว่าน้ำหนักจะลดลงสักที

อย่างที่คนอื่นเค้าบอกนักหนาว่าโยเกิร์ตกินแล้วจะลดความอ้วนได้ดังนั้นเรามาดูข้อผิดพลาดของการกินโยเกิร์ตกันว่าหากคุณเป็นแบบไหนที่จะทำให้คุณไม่สามารถทำให้ตัวเองผอมได้แน่นอน

• การกินโยเกิร์ตผสมผลไม้แล้วใส่ผลไม้มากเกินไปเชื่อว่าหลายคนคงรู้สูตรนี้กันมาบ้างแล้วว่าให้กินโยเกิร์ตผสมกับผลไม้ซึ่งเราจะใส่ผลไม้ชนิดไหนลงไปก็ได้แต่เชื่อถือว่าหากเราใส่พลม้าเยอะเกินไปแทนที่เราจะผอมมันอาจกลับทำให้เราอ้วนก็เป็นได้เพราะอย่าลืมว่าในผลไม้นั้นก็มีน้ำตาลเยอะเหมือนกันดังนั้นเมื่อเรากินผลไม้เยอะร่างกายเราก็จะได้รับน้ำตาลเยอะดังนั้นการกินโยเกิร์ตผสมผลไม้ที่ดีที่จะช่วยให้เราผอมได้ควรกินโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่ไขมัน 0% ผสมกับผลไม้ที่ไม่ต้องมีความหวานมากนักเช่นแอปเปิ้ลแล้วถ้าหากรู้ว่าจะไม่อิ่มเราก็สามารถผสมเมล็ดเจียลงไปในสูตรโยเกิร์ตสูตรเด็ดนี้ของเราได้รับรองน้ำหนักลงแน่นอน

• การกินโยเกิร์ตมากเกินไปเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าเรากินโยเกิร์ตในเวลาไหนก็ได้ดังนั้นส่วนใหญ่ไม่หิวเมื่อไหร่ก็จะหยิบโยเกิร์ตขึ้นมาทันทีแต่คุณไม่ควรลืมว่าในโยเกิร์ตก็มีความหวานของน้ำตาลเช่นกันดังนั้นหากเรากินโยเกิร์ตเยอะมากจนเกินไปร่างกายของเราก็จะได้รับน้ำตาลมากเท่ากันซึ่งจะส่งผลให้เราไม่สามารถลดน้ำหนักได้
• และการกินโยเกิร์ตแช่แข็งหลายคนกินโยเกิร์ตจากการนำไปแช่ตู้เย็นธรรมดาแบบนี้จะได้ประโยชน์จากสารอาหารในโยเกิร์ตได้มากกว่าการที่คุณเอาโยเกิร์ตไปแช่ในช่องแข็งนานเพราะว่าสารอาหารบางชนิดที่อยู่ในโยเกิร์ตไม่สามารถทนกับความหนาวเย็นในช่องแข็งได้ดังนั้นเมื่อเรานำโยเกิร์ตไปแช่แข็งแล้วนำมากินเราจึงแทบไม่ได้สารอาหารจากโยเกิร์ตเลยซึ่งนั่นถือว่าเราก็แค่กินโยเกิร์ตธรรมดาที่มีน้ำตาลมาสะสมในร่างกายแทน                  
• การกินโยเกิร์ตแบบไขมันต่ำกับแบบไม่มีไขมันส่วนใหญ่มองว่าการกินโยเกิร์ตที่ไม่มีไขมันหรือเรื่องที่มีไขมันต่ำที่สุดจะช่วยในเรื่องของการลดความอ้วนได้แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อโยเกิร์ตนั้นไม่มีไขมันแล้วบริษัทที่ผลิตโยเกิร์ตก็มักจะเป็นเพิ่มรสชาติของโยเกิร์ตให้อร่อยขึ้นด้วยการเพิ่มน้ำตาลเข้าไปดังนั้นแทนที่เราจะสามารถลดความอ้วนได้มันอาจจะกลายเป็นว่าเราได้รับน้ำตาลเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม         

สำหรับสาวๆที่อยากลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนอยากทราบหรือไม่ว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้น้ำหนักของตนลงได้ซึ่งสิ่งเรานั้นอาจเป็นการลดน้ำหนักกระชับสัดส่วนแต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการลดน้ำหนักแบบผิดวิธีดังนั้นวันนี้เราจึงมีวิธีต่างๆมาแนะนำให้สาวสาวหรือใครใครก็ตามที่ต้องการลดน้ำหนักเพื่อให้ตัวเอง กลับมามีหุ่นที่ดีและหุ่นสวยอีกครั้งโดยมีแค่สลับดังนี้ 

สำหรับสาวสาวที่ลดน้ำหนักไม่ควรพาสรับเคสรับดีดีเหล่านี้    

ไม่ควรงดอาหารเช้า 

เราจะถือได้ว่าอาหารเช้าคืออาหารหลักที่สำคัญโดยนำไปเลี้ยงสมองของเรานั่นเองหากเราขาดอาหารเช้าแล้วจะทำให้สมองเราไม่ทำงานหรือทำงานล่าช้าส่งผลทำให้การทำงานหรือการคิดอะไรก็ตามแต่จะมีการติดขัดเพราะสมองไม่มีอะไรไป หล่อเลี้ยงสมองนั่นเองซึ่งใครหลายคนมองว่าในการงด เช้าอาจจะส่งผลให้ตนมี รูปร่างที่ผอมเพียวได้นั่นเองแต่อันที่จริงแล้วความคิดเหล่านี้ถือว่าเป็นความคิดที่ผิดมากเรียกได้ว่าเมื่อเช้าเป็นมื้อเอกของเราก็ว่าได้ดังนั้นเราควรรับประทานอาหารเช้าเป็นมื้อหลักและควรลดอาหารมื้ออื่นลงแทนเพื่อให้ระบบเผาผ่านทำงานอย่างปกติและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและเป็นการไปเลี้ยง และบำรุงสมองผมเราได้เป็นอย่างดีนั่นเอง 

ควรดื่มน้ำให้บ่อยบ่อย 

ดื่มน้ำล้วนเป็นสิ่งสำคัญกับร่างกายของเรายิ่งเป็นน้ำเปล่าแล้วยิ่งมีคุณค่ามีประโยชน์มากกว่าน้ำประเภทอื่นอีกด้วยการลดน้ำหนักก็เป็นส่วนหนึ่งในการดื่มน้ำเช่นกันน้ำสามารถลดน้ำหนักได้ดีกว่าวิธีอื่นๆเลยนะเพราะในช่วงที่ท่านกำลังลดความอ้วนอยู่นั้นน้ำจะช่วยส่งเสริมให้กระบวนการเผาผ่านในร่างกายมีการ ทำงานที่ดีขึ้นหากมีการต้องการให้น้ำหนักลดลงควรทานน้ำให้เยอะเยอะยิ่งมือกลางวันควรเน้นน้ำมากกว่าที่จะทานอาหารในปริมาณมากๆอีกด้วย 

ไม่ควรทานอาหารประเภทที่มีการแปรรูป 

คุณรู้หรือไม่ว่าอาหารแปรรูปส่วนใหญ่นั้นจะมีสารเคมีปะปนอยุ่ด้วย ซึ่งหากคุณต้องการลดน้ำหนักไม่ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะทานอาหารประเภทนี้เพราะมันมีปริมาณของแคลอรีสูงยิ่งกินมากยิ่งทำให้อ้วนมากไม่สามารถทำให้คุณน้ำหนักลงได้แต่เป็นการทำให้คุณเพิ่มน้ำหนักโดยไม่รู้ตัวหากคุณต้องการน้ำหนักลดลงควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้มากที่สุดควรหันไปเน้นทางผักผลไม้จะดีกว่า 

ควรนับแคลอรี่ในการทานอาหารทุกครั้ง 

คุณรู้หรือไม่ว่าการนับแคลอรี่ในการทานอาหารทุกครั้งถือได้ว่าเป็นการลดหุ่นหรือลดความอ้วนได้ดีมากที่สุดเพราะคุณจะได้อาหารที่ครบถ้วนตามหลักห้าหมู่แล้วยังเป็นการทำให้ร่างกายของเราเข้าที่เข้าทางไม่ว่าจะเป็นหุ่นร่างกายทุกส่วนของร่างกายของเราก็จะเข้าที่เข้าทางอีกด้วยซึ่งนั่นจะทำให้คุณไม่ต้องทรมานในการอดอาหารในแต่ละครั้งเพราะสารอาหารเหล่านี้ จะได้ในปริมาณที่ครบถ้วนแถมยังทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงโดยไม่แห้งโซโทรมเหมือนกับบุคคลที่ชอบอาหารด้วยเช่นกัน   

โดยมากที่พวกเราจะทราบเกี่ยวกับโรค ที่พอจะทายใจอาการออกว่ามีลักษณะอาการเป็นแบบงี้จะเพียงพอทายใจได้ว่าเกี่ยวโยงกับการเป็นโรคอะไร ไม่ว่าจะเป็นอาการเกี่ยวกับโรคหัวใจหรือปอด พวกเราก็พอเพียงจะทายใจทางออกกันเสียโดยมาก แม้กระนั้นอาการที่เกียวข้องกับตับนั้นบางคนก็ไม่บางทีอาจเดาได้ว่ามันเป็นโรคเกี่ยวกับตับไหม เพราะเหตุว่าโรคตับกำเนิดอาการได้หลายสิ่งหลายอย่างและไม่สามารถคาดคะเนจากอาการได้อย่างง่ายๆดังเช่นโรคอื่นๆ

โรคต่างๆที่เกี่ยวกับตับมีดังนี้

โรคตับอักเสบบี

โรคตับอักเสบบี โรคนี้มีเหตุมาจากต้นสายปลายเหตุที่ตับของพวกเราได้รับเชื้อไวรัส

มีเหตุที่เกิดจากที่ตับของพวกเรานั้นได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบบีโดยเชื้อไวรัสนี้จะเข้าไปทำลายตับของพวกเราและก็นำมาซึ่งการก่อให้เกิดเป็นโรคโรคมะเร็งตับได้ คนไม่ใช่น้อยที่เกิดติดโรคนี้ส่วนมากไม่รู้ว่าตัวเองมีเชื้ออยู่ภายในร่างกาย ส่วนมากการรับเชื้อที่เจอโดยมากในหลายๆประเทศทั่วโรคเป็นผลมาจากการรับเชื้อ จากแม่สู่ลูกในขณะที่ออกลูกนั่นเอง

โรคตับอักเสบ หมายคือ การอักเสบของตับ โดยตับนั้นมีความหมายต่อการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงของผู้คน และก็เมื่อตับของมนุษย์นั้นกำเนิดอาการอักเสบหรือมีความย่ำแย่ ตับนั้นบางครั้งก็อาจจะปฏิบัติภารกิจของตนได้ไม่เต็มกำลังไม่ครบสมบูรณ์แล้วก็ด้วยเหตุผลนี้ก็เลยมีผลต่อสุขภาพของมนุษย์นั้นเอง ส่วนการอักเสบของตับนั้นเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการที่พวกเรานั้น ดื่มแอลกอฮอล์ สารเสพติด หรือเชื้อไวรัส ส่วนในประเทศออสเตรเลียเชื้อไวรัสที่พบได้บ่อยที่สุดแล้วก็เป็นเชื้อไวรัสที่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดโรคตับอักเสบ เป็นเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ เชื้อไวรัสตับอักเสบบี และก็เชื้อไวรัสตับอักเสบซี โดยเชื้อไวรัสมีความต่างกันโดยสิ้นเชียงแม้กระนั้นมีเพียงอย่างเดียวที่คล้ายคลึงกันหรือเช่นเดียวกันเป็นก่อให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อตับของพวกเรานั้นเอง โรคตับอักเสบเอ โดยตับอักเสบเอนี้ จะติดต่อผ่านทางของกินหรือน้ำที่แปดเปื้อนเชื้อไวรัสดับอักเสบเอ

กล่าวโดยร่างกายของมนุษย์นั้นสามารถกำจัดเชื้อโรคได้เองภายในช่วงเวลาอันสั้นแล้วก็ในขณะนี้นั้นมีวัคซีนที่ใช้ปกป้องฌรคตับอักเสบเอได้แล้วด้วย โดยโรคตับอักเสบบีนั้นมีทั้งยังแบบกะทันหันและก็แบบเรื้อรัง คนแก่ส่วนมากที่อยากได้รับเชื้อไวรัสนี้เข้ามาภายในร่างกายจะกำจัดเชื้อออกมาจากร่างกายได้ภายในช่วงระยะเวลา 6 เดือน และก็จะสร้างภูมิต้านทานได้ต้านทานกับโรคนี้