คลังเก็บป้ายกำกับ: กริลแอร์

การเผาผลาญไขมันโดยไม่ต้องออกกำลังกาย

สำหรับเรื่องของเทคนิคการเผาผลาญไขมันโดยไม่ต้องออกกำลังกายแล้วฟังแล้วเป็นอย่างไรบ้างอาจจะรู้สึกว่าโม้หรือเปล่าแต่เราบอกเลยว่ามันเป็นไปได้และไม่ยากด้วยก็ต้องบอกว่าถ้าเราสามารถที่จะทราบสาเหตุและสามารถที่จะทราบกลไกลเราบอกเลยว่าเราสามารถที่จะเผาผลาญไขมันได้ง่ายมาก

โดยที่แทบจะไม่ต้องออกกำลังกายนั่นเองต้องบอกเลยว่ากลไกลของมันนั้นไม่ได้ซับซ้อนเพียงแต่ว่าเราทราบเท่านั้นหรือเปล่านั่นเองปกติแล้ววันนึงเราใช้แคลอรีในการเผาผลาญพลังงานต่อวันประมาณ 2000 แคลอรีเมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านทานน้อยกว่านี้ร่างกายจะเผาผลาญลดลงตามมา

ซึ่งปกติแล้วเวลาที่เราทานน้อยแล้วคิดว่าเราจะลดความอ้วนได้แต่มันโชคร้ายจริงๆมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่โดยปกติร่างกายเผาผลาญประมาณ 2,000 แคลอรีใช่ไหมแล้วคุณทานเหลือ 1,500 แคลอรีผ่านไปสักพัก 3 วัน 5 วัน 7 วันตอนแรกดูเหมือนลดได้แต่พอ7วันจะเริ่มลดไม่ได้แล้วร่างกายจะปรับมาให้เผาผลาญเหลือ1,500 แคลอรีเท่าที่คุณกินไปหรือว่าอาจจะน้อยกว่าเล็กน้อย

เพราะว่าร่างกายกลัวตายนั่นเองร่างกายบอกว่าถ้าไม่ปรับระบบเผาผลาญจะต้องตายแน่ๆเพราะว่าอยู่ดีๆร่างกายไม่ทานอาหารร่างกายนึกว่าไม่มีอะไรกินร่างกายเลยสงวนพลังเอาไว้ไม่ยอมเผาผลาญคุณก็เลยลดลงไปอีกเหลือ 1,000 กิโลแคลอรีต่อวันที่กินเข้าไป

สักพักร่างกายก็ลดตามลงไปอีกเหลือ 1,000 กิโลแคลอรีพอเท่านั้นเองท่านเริ่มไม่ไหวแล้วท่านกลับไปกิน 1,500 แคลอรีแต่ร่างกายไม่ยอมปรับไปเป็น 1,500 แคลอรีมันก็เผาเท่าเดิม 1,000 แคลอรีกว่ามันจะกลับมาปรับตัวให้ให้เผาผลาญวันละ 1,500 แคลอรีเท่าที่ท่านทานอย่างน้อยๆ1เดือน

เพราะฉะนั้นแล้วการนับแคลอรีที่ซีเรียสเพื่อลดความอ้วน  กริลแอร์   ก็จะเห็นได้ว่ามีคนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จและคนส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเมื่อนับแคลอรีลดลงไปจนถึงจุดๆหนึ่งแล้วน้ำหนักนิ่งรวมทั้งมีปัญหาต่างๆจนล้มเลิกกลับมาอ้วนอีกนั่นเอง

คราวนี้เรามาดูสิ่งที่เราได้ยินมาต้องอดอาหารเข้าต้องอดอาหารทุกมื้อผลไม้ทาทนเต็มที่ผักทานแบบไหนก็ได้ดื่มน้ำเยอะๆกินกากใยมากๆและกินทุกอย่างเท่าๆกันไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรตโปรตีนและไขมันแต่ต้องบอกเลยว่าสิ่งที่เราเคยได้ยินมาอาจจะไม่ได้ถูกต้องไปทั้งหมด

การอดอาหารเข้าในปัจจุบันมีวิจัยแล้วว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรแถมถ้าเกิดมีช่วงเวลาที่อดอาหารนานๆจะยิ่งเผาผลาญไขมันได้มากกว่าเดิมอีกด้วยเพราฉะนั้นแล้วควรศึกษาให้ดีก่อนหรือปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด